พลังสิ่งแวดล้อมและพลังการศึกษาและพลังวัฒนธรรมของญี่ปุ่น

พลังสิ่งแวดล้อมของญี่ปุ่น

การรักษาความปลอดภัยที่ดี

ประเทศญี่ปุ่น พัฒนามาโดยให้ความสำคัญสูงสุดในด้านความปลอดภัยในสังคมรับรู้กันทั่วไปว่ามีการรักษาความปลอดภัยที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ยกตัวอย่างเช่น ในการป้องกันการเกิดอาชญากรรมรุนแรง จึงมีกฎหมายควบคุมการครอบครองอาวุธ ประชาชนทั่วไปถูกห้ามมิให้พกพาในเมืองผลจากความพยายามเหล่านี้ แม้ในพื้นที่เขตเมืองที่มีผู้คนจำนวนมากผ่านไปมา ประชาชนก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย

จากการสำรวจของหนังสือพิมพ์อังกฤษ “ดิ อีโคโนมิสท์” (The Economist) “การจัดอันดับเมืองที่มีการรักษาความปลอดภัยดีเยี่ยม” ของโลก โตเกียวได้อันดับที่1 และโอซาก้าได้อันดับที่3

นอกจากนี้ เช่นการซื้อของนั้นสกุลเงิน “เงินเยนญี่ปุ่น” ก็ปลอดภัยแบงค์ปลอมมีน้อยมากกว่าสกุลใดๆ “อัตราส่วนของแบงค์ปลอมต่อปริมาณเงินหมุนเวียน” (หน่วยงานอิสระสำนักพิมพ์แห่งชาติ) เมื่อเทียบเงินเยนของญี่ปุ่นที่1,ยูโร216,ดอลลาร์สหรัฐ638, ปอนด์1619ธนบัตรของญี่ปุ่น มีการผลิตที่ละเอียดแม่นยำมาก เพื่อไม่ให้เงินปลอมทำขึ้นมาได้

ความสะดวกและความสบายใจ

นอกจากการรักษาความปลอดภัยที่ดีแล้ว ตารางเวลาของระบบขนส่งสาธารณะเช่น รถไฟ ก็มีความแม่นยำ สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก ถือเป็นหนึ่งในพลังสิ่งแวดล้อมของประเทศญี่ปุ่นกรณีที่มีการล่าช้าเกิดขึ้น ก็เป็นเพราะการให้ความสำคัญกับความปลอดภัย รถไฟชินคันเซ็นที่วิ่งระยะไกล ตารางออกวิ่งและมาถึงก็ยังแม่นยำ อาจฟังดูเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับชาวญี่ปุ่น แต่ผู้มาเยือนจากต่างประเทศจะรู้สึกประหลาดใจ และสิ่งนี้ยังส่งผลต่อจิตสำนึกสาธารณะของคนญี่ปุ่น ที่รอรถไฟ หรือขึ้นลงรถไฟ จะไม่แซงคิวกัน
นอกจากนี้ การทำความสะอาดเมืองที่เข้าถึง ทำให้เมืองสะอาด และน่าอยู่ห้องน้ำในพื้นที่สาธารณะเช่น ในสวนสาธารณะ ก็มีน้อยที่จะสกปรก เรื่องที่จะทำให้รู้สึกไม่ดี มีน้อยมาก
ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น สังคมญี่ปุ่นนี้แหละที่พยายามสร้างสิ่งแวดล้อมที่น่าอยู่ สะดวก ปลอดภัย ตลอดมา

พลังด้านการศึกษาของญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับบุคลากรวิชาชีพและวิชาการ

มีคำพูดในภาษาญี่ปุ่นที่ว่า “นำงานมาไว้ในมือ” คือแนวคิดที่ให้เคารพในการเรียนรู้เทคนิคและความรู้เฉพาะทาง สอบเพื่อรับรองคุณสมบัติ ทำงานและดำเนินชีวิตอย่างมั่นคง
โรงเรียนสายอาชีพในฐานะที่เป็นสถาบันการศึกษาที่ฝึกอบรมผู้ประกอบอาชีพเฉพาะทางและช่างเทคนิค เบื้องหลังของการพัฒนาประเทศญี่ปุ่น คือวัฒนธรรมสังคมแบบนี้
โรงเรียนสายอาชีพปัจจุบันในประเทศญี่ปุ่นมีอยู่3206โรงเรียน มีสาขาวิชาที่มีความหลากหลายตอบสนองต่ออาชีพนอกจากนี้นักเรียนที่เรียนที่นั่น นอกจากผู้จบการศึกษาระดับมัธยมปลายแล้ว ยังมีผู้จบการศึกษามัธยมต้น, ผู้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย, คนทำงานทั่วไป, นักเรียนต่างชาติจำนวนมาก สิ่งนี้ก็ถือเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่ง

การเติมเต็มในการศึกษาเฉพาะทาง

ญี่ปุ่นสมัยโบราณการศึกษาของชาวบ้านมีความเจริญรุ่งเรือง และให้ความสำคัญต่อการสอนที่เข้าใจง่าย
โรงเรียนสายอาชีพสืบทอดประเพณีนี้ และมีอุดมคติที่จะสอนอย่างละเอียดด้วยความสุภาพโดยหลักสูตรจะให้รู้ถึงความสนุกในการเรียน ก่อนที่จะค่อยๆเชื่อมต่อไปสู่เนื้อหาขั้นสูง โดยเน้นการประยุกต์ใช้ เป็นโครงสร้างการเรียนที่ไม่ยากเกินไป
นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญอย่างมากในการสอบรับรองคุณสมบัติ สอนให้นักเรียนแทบทุกคนต้องสอบได้ใบรับรองคุณสมบัติที่จำเป็น ก่อนจบการศึกษา เนื่องจากการได้ใบรับรองคุณสมบัติถือเป็นหลักฐานยืนยันความสามารถที่ได้เรียนมาและได้เปรียบในการหางาน การจบการศึกษาจากโรงเรียนสายอาชีพ และการได้ใบรับรองคุณสมบัติ พูดได้ว่าเป็นจุดสตาร์ทของCareer Pass โดยเฉพาะนักเรียนต่างชาติ จะมีประโยชน์อย่างมากในการหางานและพัฒนาการทำงาน(Career Up) ในประเทศญี่ปุ่น จึงควรตั้งเป้าหมายไว้

พลังวัฒนธรรมของญี่ปุ่น

การรับวัฒนธรรมที่แตกต่าง และความคิดสร้างสรรค์, จินตนาการ

หนึ่งในข้อดีของการศึกษาในต่างประเทศ คือได้มีประสบการณ์กับวัฒนธรรมที่แตกต่างและจากการสัมผัสกับวัฒนธรรมที่แตกต่างกับในภูมิภาคที่เติบโตขึ้นมา จะทำให้ได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ ไปพร้อมกับการเติบโตเป็นคนที่สมบูรณ์
ญี่ปุ่นดูดซับวัฒนธรรมคาบสมุทรเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ วัฒนธรรมการล่าสัตว์ทางตอนเหนือ และวัฒนธรรมของแผ่นดินใหญ่  แล้วปรับปรุงให้ดีขึ้นในแบบญี่ปุ่น จนกระทั่งเติบโตมาถึงปัจจุบัน เรียนรู้จากคนสมัยก่อนเพื่อให้รู้ถึงสิ่งใหม่ๆ ที่เรียกกันว่า แนวความคิดที่จะพัฒนาสิ่งใหม่ๆจากการเรียนรู้สิ่งเก่าๆ เป็นวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงกับจิตวิญญาณของสิ่งที่ได้รับเข้ามาก่อน
และ ในยุคสมัยใหม่นี้ มีการรับวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาจำนวนมาก วรรณกรรมจำนวนมากถูกแปลเป็นภาษาญี่ปุ่น จากการนี้ทำให้คนญี่ปุ่นจำนวนมากได้รับความรู้จากตะวันตก ทำให้ญี่ปุ่นพัฒนาไปสู่การเป็นประเทศอุตสาหกรรม จากการขัดเกลาด้านความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการแบบนี้ ทำให้ญี่ปุ่นสร้างสิ่งประดิษฐ์จำนวนมากออกมาสินค้าอุตสาหกรรมเช่น หม้อหุงข้าวไฟฟ้าและเครื่องคิดเลขไฟฟ้า, เครื่องบันทึกเทปวิดีโอ,Walkman เป็นต้น สินค้าบันเทิงเช่น คาราโอเกะสินค้าบริโภคเช่นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ทั่วโลกรู้จักสิ่งเหล่านี้ในฐานะสิ่งประดิษฐ์ของญี่ปุ่น

คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับความปราณีตและความเป็นระเบียบ

นอกจากนี้ในประเทศญี่ปุ่นมีสำนึกที่ดี ในการขัดเกลาสิ่งต่างๆ แทนที่จะนำวัฒนธรรมของต่างประเทศมาใช้ทันที แต่จะขัดเกลาให้เหมาะสมกับคนญี่ปุ่นเสียก่อน
ยกตัวอย่างเช่น “ซอสทงคัตสึ” ที่ญี่ปุ่นคิดค้นขึ้นได้แรงบันดาลใจจากน้ำปลาของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้น้ำปลาข้ามไปยังประเทศอังกฤษกลายเป็นซอสวูสเตอร์ และจากประเทศอังกฤษเข้ามายังญี่ปุ่น มีการตัดปลาออกจากวัตถุดิบที่ใช้ ทำรสชาติให้อ่อนลงจนกลายมาเป็นซอสทงคัตสึ เช่นนี้ ทั้งการคิดค้นของอังกฤษ(ซอสวูสเตอร์) และการคิดค้นของญี่ปุ่น(ซอสทงคัตสึ) ต่างก็เกิดมาจากประสบการณ์ต่างวัฒนธรรม
การขัดเกลาแบบนี้ จำเป็นต้องมีสังคมที่เป็นระเบียบและสงบสุขในสังคมที่ไม่มีเสถียรภาพ การขัดเกลาไม่สามารถสำเร็จได้
คนญี่ปุ่น มีหน้าที่ซึ่งถือเป็นกฎที่รู้กันดีในกลุ่มหรือหมู่คณะ รักษาความเป็นระเบียบในสังคมโดยใช้ความเห็นอกเห็นใจพิจารณาเหตุผลส่วนบุคคลที่ไม่ตรงตามกฏนั้น จึงสร้างสังคมที่มีเสถียรภาพขึ้นมาได้นอกจากนี้ จิตสำนึกสาธารณะระดับสูงของคนญี่ปุ่นนั้น สามารถพูดได้ว่า ถูกสร้างขึ้นมาจาก จิตสำนึกของประชาชนที่ต้องการดำรงรักษาความสงบในสังคม โดยไม่ต้องพึ่งพากฎหมาย หรือ ข้อบังคับ

PAGETOP