คุณสมบัติเรื่องถิ่นที่อยู่ของชาวต่างชาติ
คุณสมบัติเรื่องถิ่นที่อยู่มี27ประเภท
ชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่นจะต้องระบุวัตถุประสงค์การเข้าพักในตอนที่เข้ามาในประเทศเพื่อยื่นคำร้องและได้รับการอนุมัติ ซึ่งจะเรียกคุณสมบัติการพำนักในประเทศ (การขอวีซ่า)และวีซ่าจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และเงื่อนไขในการพำนักซึ่งมีอยู่ 27ประเภท
ชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่นที่คุณสามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆในขอบเขตที่ถูกกำหนดไว้ตามเงื่อนไขการพำนักและตามระยะเวลาที่กำหนด
วิธีคิดในอดีตที่ผ่านมาของการขอวีซ่าทำงาน
สำหรับชาวต่างชาติที่เข้าประเทศและพำนักในประเทศญี่ปุ่นนั้น จำเป็นจะต้องมีสถานภาพการพำนักที่ตรงกับข้อใดข้อหนึ่งที่กำหนดไว้
และคุณสมบัติการพำนัก (วีซ่าทำงาน) ที่ได้รับค่าตอบแทนจากการทำงานในประเทศญี่ปุ่นนั้น โดยพื้นฐานจะยึดตามวิธีคิดที่ว่า “ไม่อนุญาตเกี่ยวกับการใช้แรงงานแบบทั่วไป”
การขยายขอบเขตของการจ้างงานที่กว้างขึ้นโดยการแก้ไขกฎหมาย
นักศึกษาต่างชาติที่ทำงานด้วยวีซ่าทำงานในญี่ปุ่นที่ผ่านมา มีข้อจำกัดว่าจะต้องเป็นการทำงานเกี่ยวกับด้าน “ความรู้มนุษยศาสตร์และธุรกิจระหว่างประเทศ” และ “ด้านเทคโนโลยี” เป็นหลักเท่านั้น
แต่เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายล่าสุด ได้มีการเปลี่ยนแปลงกรอบของสถานภาพการพำนัก และได้มีการขยายขอบเขตของการจ้างงานของนักเรียนต่างชาติให้กว้างขึ้น ซึ่งได้ระบุส่วนที่สำคัญไว้ด้านล่างนี้
①สถานภาพการพำนัก ในส่วนของงาน “ด้านความรู้ทางมนุษยศาสตร์และธุรกิจระหว่างประเทศ” และ “ด้านเทคโนโลยี” ถือเป็นหนึ่งเดียวกัน
วีซ่าทำงานในส่วนของงาน “ด้านความรู้ทางมนุษยศาสตร์และธุรกิจระหว่างประเทศ” และ “ด้านเทคโนโลยี” เป็นคุณสมบัติที่ไม่จำเป็นต้องถูกร้องขอประสบการณ์การทำงาน ดังนั้นจึงเป็นหนึ่งในประเภทวีซ่าที่สามารถขอเปลี่ยนแปลงจาก“วีซ่าการศึกษาต่อในต่างประเทศ “ มาเป็นวีซ่าทำงานประเภทนี้ได้
เนื่องจากเพียงแค่มีความรู้ตรงกับพื้นฐานของกิจกรรมที่กำหนดไว้ก็พอแล้ว ดังนั้นโดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่เลือกเรียนวิชาเอกทางที่เป็นวิชาทางด้านมนุษย์ศาสตร์ที่โรงเรียน จะยื่นคำร้องขอวีซ่าด้านความรู้ทางมนุษยศาสตร์และธุรกิจระหว่างประเทศ” ส่วนผู้ที่เลือกเรียนเอกวิชาเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ก็จะยื่นคำร้องขอวีซ่าด้าน “ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี”
②สถานภาพการพำนักเพื่อทำงานด้าน “การดูแลและการพยาบาล” เป็นสิ่งที่มีการกำหนดขึ้นใหม่
การตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นในด้าน“การดูแลรักษาพยาบาล” ที่มีคุณภาพสูงที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆพร้อมๆกับสภาพสังคมผู้สูงอายุของญี่ปุ่น จึงได้มีการกำหนดใบวุฒิบัตรระดับประเทศของ ”ผู้ปฏิบัติงานด้านการดูแลรักษาพยาบาล” ขึ้นมา และได้มีการกำหนดสถานภาพการพำนักเพื่อทำงานด้าน “การดูแลรักษาพยาบาล”ขึ้นมาใหม่ด้วย
เป็นผลให้นักเรียนต่างชาติที่ได้รับการฝึกอบรบจากโรงเรียนสายอาชีพจะได้รับวุฒิการศึกษาระดับชาติของผู้ปฏิบัติงานด้านการดูแลและพยาบาลหลังจากจบการศึกษาจากสถาบันที่ฝึกอบรม ซึ่งจะทำให้สามารถเข้าทำงานด้าน “การดูแลและการพยาบาล”ในประเทศญี่ปุ่นได้
③สามารถวิจัยและเรียนรู้เกี่ยวกับอาหาร”ญี่ปุ่น” ในขณะที่ทำงานทำงานไปด้วยได้
ดังนั้นตั้งแต่ปีเฮเซที่26(ปี2014)เป็นต้นมา มีนักเรียนต่างชาติของโรงเรียนสอนทำอาหารที่ตรงกับเงื่อนไขบางอย่างได้รับการอนุญาตเป็นกรณีพิเศษในการทำงานด้านการทำอาหารญี่ปุ่นในประเทศญี่ปุ่น
ทำให้นักเรียนต่างชาติที่มีคุณสมบัติเพื่อ “ทำกิจกรรมที่ถูกกำหนดไว้โดยเฉพาะ” สามารถมียื่นขอสถานภาพการพำนักในญี่ปุ่นเป็นเวลา2ปี โดยได้ทำงานไปด้วยและศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่นไปด้วยได้
④การเปลี่ยนแปลงสถานภาพการพำนักเพื่อ “การลงทุนและการบริหารจัดการ”ไปเป็น “การบริหารจัดการและการควบคุมดูแล”
ชื่อวีซ่าสำหรับชาวต่างชาติที่มาทำงานในด้านการบริหารกิจการหรือมาควบคุมดูแลกิจการในประเทศญี่ปุ่น ได้มีการเปลี่ยนแปลงชื่อเรียกวีซ่าในปีเฮเซที่27(ปี2015)โดยมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่เรียกว่า สถานภาพการพำนักเพื่อ “การลงทุนและการบริหารจัดการ”ไปเป็น “การบริหารจัดการและการควบคุมดูแล”
ทำให้ในการจัดตั้งบริษัทเงื่อนไขเกี่ยวกับขนาดของกิจการที่ได้รับวีซ่าประเภทนี้จะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
สถานภาพการพำนักที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของนักเรียนต่างชาติ
หากนักเรียนต่างชาติได้ทำงานในประเทศญี่ปุ่น จำเป็นจะต้องเปลี่ยนประเภทการพำนักจากเดิมที่เป็นประเภท “การศึกษาต่อต่างประเทศ” ให้มาเป็นสถานภาพการพำนักแบบที่สามารถทำงานได้
เมื่อยึดตามเกณฑ์ในเนื้อหาที่กล่าวไปก่อนหน้านี้เกี่ยวกับ “สถานภาพการพำนักของชาวต่างชาติ” จากนี้จะขออธิบายเกี่ยวกับวีซ่าที่สามารถทำงานได้ ดังต่อไปนี้
สถานภาพการพำนัก”ด้านเทคโนโลยีด้านความรู้ทางมนุษยศาสตร์และธุรกิจระหว่างประเทศ”
○นักศึกษาต่างชาติจะต้องสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายเป็นอย่างน้อย
สถานภาพการพำนักประเภท ” ด้านเทคโนโลยี ด้านความรู้ทางมนุษยศาสตร์และธุรกิจระหว่างประเทศ” เป็นวีซ่าทำงานระดับทั่วไปที่สุดสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่ทำงานในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในส่วนของประวัติการศึกษา ได้แก่ผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนสายอาชีพ มหาวิทยาลัย อนุปริญญา ปริญญาโท ในประเทศญี่ปุ่น
ในกรณีของโรงเรียนสายอาชีพ มีเงื่อนไขว่าจะต้องได้วุฒิเกี่ยวกับ ”นักวิชาชีพ” หรือ “นักวิชาชีพระดับสูง” ด้วยนอกจากนี้นักเรียนต่างชาติที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในประเทศบ้านเกิด มีคุณสมบัติที่สามารถทำงานในประเทศญี่ปุ่นได้นอกจากนี้หากต้องการทำงานในสาขาที่เกี่ยวข้องกับIT ถ้าผ่านการทดสอบคุณสมบัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้ประกาศไว้ เรื่องวุฒิการศึกษาไม่จำเป็น(ข้อมูลอ้างอิงจาก โครงการสำนักงานบริหารจัดการและส่งเสริมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IPA) “ขั้นตอนต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานผู้ชำนาญด้านไอทีซึ่งเป็นชาวต่างชาติในประเทศญี่ปุ่น)
○ความเกี่ยวข้องของเนื้อหาการเรียนรู้และเนื้อหาทางธุรกิจเป็นสิ่งที่สำคัญ
การตรวจสอบสถานภาพการพำนักของสำนักตรวจคนเข้าเมือง จะมีการพิจารณาถึงความเกี่ยวข้องของเนื้อหาที่เรียนในโรงเรียนสายอาชีพ หรือ ในมหาวิทยาลัย และเนื้อหางานที่ทำหลังจากได้รับการว่าจ้างเข้าทำงาน
ยกตัวอย่างเช่นนักเรียนชาวต่างชาติที่เรียนในสายวิทยาศาสตร์หากทำงานด้านการวิเคราะห์เกี่ยวกับการผลิตสารเคมี หรือการควบคุมคุณภาพ หรือกรณีนักเรียนชาวต่างชาติที่เรียนด้านวิศวกรรมเครื่องกล หากทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาเครื่องจักรกล จะเป็นกรณีที่สามารถเห็นความสัมพันธ์ของเนื้อหาการเรียนที่เรียนมาและการนำมาใช้ในการประกอบอาชีพได้อย่างชัดเจน ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะได้รับการอนุมัติสถานภาพการพำนักหรือวีซ่า ในกรณีด้านมนุษยศาสตร์ ก็เช่น ผู้ที่ใช้ความรู้ด้านกฎหมาย เศรษฐกิจ สังคมศึกษา ในการทำงานในแผนกบริหารของบริษัททั่วไป หรือผู้ที่ทำงานที่จำเป็นต้องมีคุณสมบัติการพำนักที่เกี่ยวข้องกับ “วัฒนธรรมต่างประเทศ” ( เช่น ล่าม นักแปล สอนภาษา ผู้รับผิดชอบงานด้านต่างประเทศของบริษัท เป็นต้น) ก็สามารถได้รับอนุญาตให้ทำงานได้
○ บริษัทที่พิจารณาเพื่อที่จะได้รับการอนุมัติวีซ่าทำงาน
การศึกษาสายอาชีพของโรงเรียนอาชีวศึกษาบางพื้นที่ บางส่วนในสายอาชีพเกี่ยวกับการทำอาหาร และ การเสริมความงานณ ตอนนี้ได้มีขีดจำกัดในการทำงาน
อย่างไรก็ตามบริษัทญี่ปุ่นหลายแห่ง มีความต้องการบุคลากรที่มีความสามารถยอดเยี่ยมจากต่างประเทศ เพื่อให้สามารถขอวีซ่า” ด้านเทคโนโลยี ด้านความรู้ทางมนุษยศาสตร์และธุรกิจระหว่างประเทศ” ให้บุคคลากรชาวต่างชาติเพื่อให้สามารถทำงานในประเทศญี่ปุ่นได้ ทำให้มีหลายบริษัทที่คิดหาวิธีว่าทำอย่างไรที่จะให้มีความเกี่ยวข้องระหว่างเนื้อหาที่เรียนมากับเนื้อหาในการทำงาน เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
○อาชีพที่มีความสำคัญที่สามารถขอสถานภาพการพำนักด้าน “เทคโนโลยี ด้านความรู้มนุษยศาสตร์และธุรกิจระหว่างประเทศ”ได้
[เทคโนโลยี] วิศวกรคอมพิวเตอร์, ช่างเทคนิควิศวกรรมเครื่องกล, วิศวกรไฟฟ้า, ออกแบบเว็บและนักออกแบบผลิตภัณฑ์ วิศวกรระบบเคมี และผลงานวิจัยบนพื้นฐานของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ฯลฯ
[ความรู้มนุษยศาสตร์ และระบบธุรกิจระหว่างประเทศ] ธุรกิจการค้าต่างประเทศ ดีไซน์เนอร์ ครูสอนภาษาในโรงเรียน นักวิเคราะห์หลักทรัพย์บริษัทนักวิจัยผลสำรวจบริษัทนักวิจัยและนักการตลาดต่างประเทศของบริษัทเทรดดิ้งการประชาสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และผู้ประกอบการซื้อขายหลักทรัพย์ และอื่นๆ
สถานภาพการพำนักด้าน “การดูแลและการพยาบาล”
○ เนื่องจากได้มีการกำหนดขึ้นใหม่ทำให้นักเรียนต่างชาติสามารถทำงานโดยได้สถานภาพการพำนักในด้าน “การดูแลและการพยาบาล”
ได้มีการกำหนดคุณสมบัติสถานภาพการพำนักด้าน “การดูแลและการพยาบาล”ขึ้นมาใหม่ สำหรับนักศึกษาต่างชาติที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนวิชาชีพหรือสถานบันที่สอนด้านการดูและและการพยาบาลเพื่อให้สามารถทำงานได้
○ความรู้พื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับความรู้เรื่องการดูแลและการพยาบาล①–เนื้อหางานของนักปฏิบัติการดูและและการพยาบาล
นักปฏิบัติการดูและและการพยาบาล เป็นอาชีพเฉพาะทางที่เกี่ยวข้องกับการได้รับใบวุฒิบัตรระดับประเทศ เนื่องจากมีผู้สูงอายุและผู้ที่มีความบกพร่องหลายคนที่มีความต้องการผู้ดูและและพยาบาล เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างราบรื่น โดยต้องการความช่วยเหลือในด้านการรับประทานอาหาร การอาบน้ำ การดูแลเรื่องสิ่งปฏิกูล การเดิน เป็นต้น โดยจะต้องกำหนดแผนงานเพื่อการดูและและพยาบาล และให้คำแนะนำทางด้านจิตใจ ซึ่งถือเป็นงานที่มีความสำคัญมาก
○ความรู้พื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับความรู้เรื่องการดูแลและการพยาบาล②–เงื่อนไขที่จำเป็นของนักปฏิบัติการดูและและการพยาบาล
ปัจจุบันสำหรับผู้ที่เรียนที่สถาบันที่อบรมเกี่ยวกับนักปฏิบัติการดูและและการพยาบาล2ปีขึ้นไป จะได้รับวุฒินักปฏิบัติการดูแลและการพยาบาลซึ่งเป็นวุฒิระดับประเทศ สถาบันที่สามารถเปิดสอนได้คือมหาวิทยาลัย หรือ วิทยาลัยเฉพาะทางที่ถูกกำหนดโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแรงงานและสวัสดิการของญี่ปุ่น คุณสมบัติของผู้ที่สามารถเข้าศึกษาต่อไปสถาบันเหล่านี้ได้คือผู้ที่จบการศึกษาระดับมัธยมปลาย ดังนั้นสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่จะเข้าศึกษาที่นี่จึงมีเงื่อนไขว่าจะต้องสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายจากประเทศบ้านเกิดของตนเองมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี เฮเซที่ 34 (ปี 2022)เป็นต้นไป ผู้ที่จะมีสิทธิ์ได้รับวุฒิสำเร็จการศึกษาจากนักปฏิบัติการดูแลและการพยาบาลซึ่งเป็นวุฒิระดับประเทศนั้น นอกจากจะต้องสำเร็จการศึกษาจากสถาบันแล้ว ยังมีหน้าที่ต้องผ่านการทดสอบวัดความสามารถของปฏิบัติการดูแลและการพยาบาลอีกด้วย
จนกว่าจะถึงมาตรการการเปลี่ยนดังกล่าว ผู้ที่สำเร็จการศึกษาตั้งแต่ในรอบปีเฮเซที่29-ปีเฮเซที่ 33 (รอบปี คศ. 2017 ถึง2021) หลังจากจบการศึกษาจะได้รับวุติการดูและการการพยาบาลระยะเวลา5ปีก่อน (เป็นแบบชั่วคราว) และหลังจากนั้นอีก 55 ปี จะต้องผ่านการทดสอบเพื่อให้ได้วุฒิระดับประเทศ หรือหลังจากจบการศึกษาได้ผู้ปฏิบัติงานด้านการดูแลและการพยาบาลอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา5ปี สามารถยังคงได้รับวุฒินักปฏิบัติการดูแลและการพยาบาลซึ่งเป็นวุฒิระดับประเทศต่อ
○สถานที่ทำงานหลักของผู้ที่มีสถานภาพการพำนัก ” ด้านการดูและและการพยาบาล
บ้านพักคนชราที่ต้องการการดูแลพิเศษ ศูนย์ดูแลรักษาพยาบาลผู้สูงอายุศูนย์ให้บริการผู้สูงอายุแบบรายวัน ศูนย์ให้บริการดูแลผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกาย และการเยี่ยมเยียนเพื่อดูแลรักษาพยาบาลเป็นต้น
สถานภาพการพำนัก “ด้านการแพทย์”
○วุฒิการศึกษาทางการแพทย์ของประเทศญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่จำเป็น
สถานภาพการพำนัก “ด้านการแพทย์” เป็นวีซ่าทำงานที่สามารถ “ทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องทางธุรกิจที่เกี่ยวกับการการแพทย์”
เพื่อให้ได้วีซ่าทางการแพทย์ที่ จะต้องมีวุฒิการศึกษาทางการแพทย์ของประเทศญี่ปุ่นกำหนดไว้
○คุณวุฒิทางการแพทย์ที่สามารถขอรับวีซ่าทางการแพทย์
แพทย์ พยาบาลพยาบาลสมทบ ทันตแพทย์ เจ้าหน้าที่ทันตอนามัย เจ้าหน้าที่ผดุงครรภ์ เภสัชกรพยาบาลสาธารณสุขนักกายภาพบำบัดนักกิจกรรมบำบัด
นักบำบัดด้วยการพูด นักรังสีวิทยาการแพทย์วิศวกรคลินิก ผู้ทำแขนขาเทียม ผู้เชี่ยวชาญด้านการฝึกฝนความสามารถในการมองเห็น
○เรียนรู้ในสถาบันการศึกษาด้านการแพทย์ของประเทศญี่ปุ่นและต้องผ่านการสอบวัดความสามารถระดับประเทศ
นักศึกษาต่างชาติที่จบการศึกษาจากสถานที่ฝึกอบรมวุฒิการศึกษาตามที่รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานและสวัสดิการ จำเป็นจะต้องผ่านการสอบระดับชาติ
ในจำนวนนี้ สถานที่ฝึกอบรมของแพทย์และเภสัชกรมีแค่มหาวิทยาลัยเท่านั้น ระยะเวลาในการจบการศึกษา (ระยะเวลาการศึกษา) คือ 6 ปีนอกเหนือจากแพทย์และเภสัชกรจะเป็น 3 ปีขึ้นไป และในโรงเรียนสายอาชีพก็มีสถานฝึกอบรมที่ดูแลหลากหลายสาขาวิชา
สถานภาพพำนัก “การบริหารและการจัดการ”
○คุณสมบัติในการทำงานเป็นผู้จัดการ,ผู้บริหารของบริษัทฯ
สถานภาพพำนัก “การบริหารและการจัดการ” คือวีซ่าที่ให้แก่ชาวต่างชาติที่ทำงานบริหารธุรกิจการค้าระหว่างประเทศหรือธุรกิจอื่น หรือทำหน้าที่จัดการงานดังกล่าว หากจะพูดอีกอย่าง คือ สถานภาพพำนักที่ให้แก่ชาวต่างชาติที่บริหารบริษัทอยู่ในญี่ปุ่น หรือทำงานตำแหน่งบริหารจัดการในบริษัทในประเทศญี่ปุ่น
○นักเรียนต่างชาติในญี่ปุ่นสามารถสร้างกิจการได้
กรณีที่เข้ารับการตรวจสอบการบริหารบริษัทในประเทศญี่ปุ่น ยังไม่ต้องพูดถึงเนื้อหาทางธุรกิจแต่เกณฑ์ประเมินตัดสินคือประวัติการทำงาน,ความรู้เกี่ยวกับงาน, ความสามารถของผู้บริหาร แต่โดยทั่วไปไม่ได้จำกัดวุฒิการศึกษา
แต่กรณีที่ศึกษาวิชาเอกด้านการประกอบการ หรือการบริหารในมาหาวิทยาลัย หรือโรงเรียนสายอาชีพ ก็มีโอกาสสูงที่จะเป็นบวกต่อการตัดสินด้านความรู้ในระดับหนึ่ง (ประวัติการทำงานไม่ใช่เงื่อนไขจำเป็น) ดังนั้น นักเรียนต่างชาติที่จบการศึกษาจากโรงเรียนในญี่ปุ่น ที่เริ่มประกอบกิจการโดยไม่ทำงานก่อนก็มี
○ได้รับจากการพัฒนาด้านการงาน
การจะได้รับวีซ่า “การบริหารและการจัดการ” นอกจากจะต้องทำงานจริง3ปีขึ้นไปแล้ว จะต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดว่าเนื้อหางานที่ทำเข้าข่ายงานบริหารหรือไม่
ดังนั้น นักเรียนต่างชาติที่เข้าทำงานเป็นพนักงานใหม่โดยทั่วไปจะไม่เกี่ยวข้องกับวีซ่า “การบริหารและการจัดการ” อย่างไรก็ตาม หากเข้าทำงานเกิน3ปีแล้ว และมีตำแหน่งในระดับหนึ่ง ช่วงที่จะเปลี่ยนวีซ่าเป็น “งานด้านเทคนิค, ความรู้เกี่ยวกับสังคม, ต่างประเทศ” ก็สามารถยื่นขอเปลี่ยนวีซ่าเป็น”การบริหารและการจัดการ” ได้
○งานที่สามารถทำได้โดยใช้สถานภาพพำนัก “การบริหารและการจัดการ”
ผู้จัดการ, ผู้บริหารของบริษัท (ประธานคณะกรรมการ, กรรมการ, ผู้สอบบัญชี, ผู้จัดการทั่วไป, ผู้จัดการสาขา, ผู้จัดการโรงงานเป็นต้น )
สถานภาพพำนักอื่นๆ เช่น“ทำกิจกรรมที่ถูกกำหนดไว้โดยเฉพาะ” ”ทักษะ” เป็นต้น
○เป็นเชฟอาหารญี่ปุ่นสามารถทำงานได้2ปี
สถานภาพพำนัก“ทำกิจกรรมที่ถูกกำหนดไว้โดยเฉพาะ” คือ วีซ่าที่ให้ในกรณีที่ไม่เข้าข่ายสถานภาพพำนักอื่นๆ แต่มีเหตุผลที่จะต้องอยู่ในญี่ปุ่น และได้รับการอนุญาต ดังนั้น จะครอบคลุมไปหลากหลายทั้งด้านชนิดและเนื้อหา
หากจะยกตัวอย่างเกี่ยวกับการทำงานของนักเรียนต่างชาติ นอกจากกรณีทำการหางานหลังจบการศึกษา ที่สามารถขอรับวีซ่าชนิดนี้ได้ ผู้จบการศึกษาจากสถานฝึกอบรม การทำอาหาร ที่สามารถทำงานในร้านอาหารญี่ปุ่นได้ 2 ปี เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่น ก็จะได้รับอนุญาตวีซ่า“ทำกิจกรรมที่ถูกกำหนดไว้โดยเฉพาะ”